วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560

มาตรฐาน API เครื่องยนต์ดีเซล

     FA-4

       Api FA-4  กำหนดขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลสี่จังหวะความเร็วสูงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกบนทางหลวงของปี2017 น้ำมันเหล่านี้เป็นสูตรสำหรับใช้ในโครงการทางหลวงที่มีปริมาณกำมะถันเชื้อเพลิงดีเซลไม่เกิน 15 ppm (0.0015% โดยน้ำหนัก) โปรดดูคำแนะนำจากผู้ผลิตเครื่องยนต์แต่ละตัวเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับน้ำมัน API FA-4 น้ำมันเหล่านี้ถูกผสมให้รองรับอุณหภูมิสูงและแรงเฉือนสูง (HTHS) ในช่วงความหนืดที่ 2.9cP-3.2cP เพื่อช่วยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก น้ำมันเหล่านี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาความคงทนของระบบควบคุมการปล่อยไอเสียที่ใช้ตัวกรองอนุภาคและระบบบำบัดอื่น ขั้นสูง น้ำมัน API FA-4 ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของน้ำมัน ,การสูญเสียความหนืดเนื่องจากแรงเฉือน ,การป้องกันสารพิษของตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดความเป็นพิษ ,การปิดกั้นตัวกรองอนุภาค ,การสึกหรอของเครื่องยนต์ ,การสะสมสิ่งสกปรกบริเวณลูกสูบ ,การเสื่อมสภาพคุณสมบัติของน้ำมันที่มีช่วงการทำงานที่อุณหภูมิต่ำและอุณหภูมิสูง ,เขม่าที่ทำให้ความหนืดเพิ่มขึ้น น้ำมัน API FA-4 ไม่สามารถเปลี่ยนหรือใช้ร่วมกับ API CK-4, CJ-4, CI-4 กับน้ำมัน CI-4 PLUS, CI-4 และ      CH-4 ได้ โปรดดูที่คำแนะนำของผู้ผลิตเครื่องยนต์เพื่อดูว่าน้ำมัน API FA-4 เหมาะสำหรับการใช้งานหรือไม่ น้ำมัน API FA-4 ไม่แนะนำให้ใช้กับเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันมากกว่า 15 ppm สำหรับเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันมากกว่า 15 โปรดดูคำแนะนำจากผู้ผลิตเครื่องยนต์

      CK-4 

      API CK-4 อธิบายถึงน้ำมันสำหรับใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 จังหวะความเร็วสูงที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองมาตรฐานการปล่อยไอเสียบนทางหลวงปี 2017 และมาตรฐานการปล่อยไอดสียระดับTier 4 และครอบคลุมไปถึงเครอื่งยนต์ดีเซลรุ่นก่อนนี้ด้วย  น้ำมันเหล่านี้เป็นสูตรสำหรับใช้ในการใช้งานทั้งหมด โดยใช้เชื้อเพลิงดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 500 ppm (0.05% โดยน้ำหนัก) อย่างไรก็ตามการใช้น้ำมันเหล่านี้มีปริมาณกำมะถันมากกว่า 15 ppm (0.0015% โดยน้ำหนัก) อาจส่งผลต่อความคงทนของระบบบำบัดไอเสียและ / หรือระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันรอบใหม่ น้ำมันเหล่านี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาความคงทนของระบบควบคุมการปล่อยไอเสียที่ใช้ตัวกรองอนุภาค(DPF) และระบบบำบัดอื่น ขั้นสูง น้ำมัน API CK-4 ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันหลายด้าน เช่น การเกิดออกซิเดชันของน้ำมัน ,การสูญเสียความหนืดเนื่องจากแรงเฉือน,การป้องกันอันตรายจากตัวเร่งปฏิกิริยาที่ก่อให้เกิดสารพิษ  ,ป้องกันตัวกรองอนุภาค(DPF),การสึกหรอของเครื่องยนต์ ,การสะสมของสิ่งสกปรกบริเวณลูกสูบ ,การเสื่อมสภาพคุณสมบัติของน้ำมันที่มีช่วงการทำงานที่อุณหภูมิต่ำและอุณหภูมิสูง, เขม่าที่ทำให้ความหนืดเพิ่มขึ้น น้ำมัน API CK-4 มีคุณสมบัติเหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐาน API CJ-4, CI-4 ด้วย CI-4 PLUS, CI-4 และ CH-4  เมื่อใช้น้ำมัน CK-4 ที่มีน้ำมันกำมะถันสูงกว่า 15 ppm โปรดปรึกษาผู้ผลิตเครื่องยนต์เพื่อขอคำแนะนำการให้บริการ

      CJ-4

      API CJ-4 เป็นค่ามาตรฐานที่ออกในปี 2006 สำหรับเครื่องยนต์ความเร็วสูงสี่จังหวะ ได้รับการออกแบบเพื่อให้ได้มาตรฐานการปล่อยไอเสียบนทางหลวงปี 2007 มาตรฐานCJ-4 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในการใช้งานทุกประเภทด้วยเชื้อเพลิงดีเซลที่มีกำมะถันสูงถึง 500 ppm  (0.05% โดยน้ำหนัก) อย่างไรก็ตามการใช้น้ำมันเหล่านี้มีมากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถัน 15 ppm อาจส่งผลต่อความคงทนของระบบบำบัดไอเสียและ / หรือระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันรอบใหม่ น้ำมัน CJ-4 นี้มีประสิทธิภาพในการรักษาความคงทนของระบบควบคุมการปล่อยไอเสียที่ใช้ตัวกรองอนุภาค(DPF) และระบบบำบัดอื่น ขั้นสูง มาตรฐานCJ-4 นั้นมีประสิทธิภาพการทำงานเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานของ CF-4, C-4, AH-4 และ C-4

      CI-4 PLUS

       API CI-4 PLUSใช้ร่วมกับ API C-4 ชื่อ "CI-4 PLUS" การกำหนดแยกแยะมาตรฐานน้ำมันนี้ถูกคิดค้น เพื่อความสามารถในระดับที่สูงกว่าในการป้องกันการเพิ่มความหนืดอันเนื่องมาจากเขม่าและการสูญเสียความหนืดเนื่องจากแรงเฉือนในเครื่องยนต์ดีเซล มาตรฐานนี้มีความสามารถในการประหยัดพลังงานด้วย CI-4 PLUS จะปรากฏในส่วนล่างของสัญลักษณ์ API "Donut"
      

CI-4

       API CI-4 อธิบายถึงน้ำมันสำหรับใช้ในเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะความเร็วสูงที่ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปล่อยไอเสีย ปี 2004 ซึ่งถูกนำมาใช้ในเดือนตุลาคม ปี 2002 น้ำมันเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานในเชื้อเพลิงดีเซลที่มีกำมะถัน ไม่เกิน 0.05% โดยน้ำหนัก น้ำมันเหล่านี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาความคงทนของเครื่องยนต์ซึ่งอาจใช้ Exhaust Gas Recirculation (EGR) และส่วนประกอบอื่น ของระบบการปล่อยไอเสีย น้ำมันเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องการสึกหรอและการกัดกร่อนที่เหมาะสม, รักษาความเสถียรของน้ำมันในช่วงอุณหภูมิต่ำและสูงได้ดี, มีคุณสมบัติในการรับมือกับเขม่าได้ดี, ควบคุมการสะสมสิ่งสกปรกบริเวณลูกสูบ, ป้องกันการสึกหรอของชุดระบบวาล์ว, ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นและการเกิดฟองอากาศ, รักษาความหนืดอันเนื่องมาจากแรงเฉือน น้ำมัน CI-4 มีสมรรถนะที่เหนือกว่า API CH-4, CG-4 และ CF, CF-4 ซึ่งสามารถหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

CH-4      

      API CH-4 น้ำมันหล่อลื่นชนิดนี้เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะความเร็วสูงที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ได้มาตรฐานการปล่อยไอเสีย 1998 และมีส่วนประกอบเฉพาะสำหรับใช้กับน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันสูงถึง 0.5% โดยน้ำหนัก น้ำมัน CH-4 มีสมรรถนะสูงกว่ามาตรฐาน API CF, CF-4 และ API CG-4

 CG-4

      API CG-4หมวดหมู่นี้อธิบายถึงน้ำมันสำหรับใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลสี่จังหวะความเร็วสูงที่ใช้ในงานหนักทั้งบนทางหลวง (มีปริมาณกำมะถัน 0.05% wt โดยน้ำหนัก) และการใช้งานบนถนนที่ไม่ใช่ทางหลวง (มีปริมาณกำมะถันน้อยกว่า 0.5% wt โดยน้ำหนัก) น้ำมัน CG-4 ช่วยควบคุมการสะสมความร้อนที่ลูกสูบเพื่อไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน, ควบคุมและป้องกันการสึกหรอ การกัดกร่อน การเกิดฟอง การเกิดออกซิเดชันและการสะสมของเขม่า น้ำมันเหล่านี้มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมสำหรับเครื่องยนต์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ได้มาตรฐานการปล่อยไอเสียของปี 1994 และใช้ในเครื่องยนต์ที่ใช้ มาตรฐาน CD, CE และ CF-4 น้ำมันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับบริการนี้ตั้งแต่ 1994

CF-2

      API CF-2 เป็นมาตรฐานของเครื่องยนต์ดีเซลสองจังหวะที่มีประสิทธิภาพและการควบคุมเพื่อลดรอยขูดขีดและสิ่งสกปรกบนผนังกระบอกสูบและแหวนลูก น้ำมันนี้ออกแบบมาสำหรับการใช้งานบริการตั้งแต่ปี 1994 และอาจมีการใช้งานเมื่อได้เมื่อมีการระบุแนะนำในมาตรฐาน API Service Category CD-II (หรือดูว่ามีค่ามาตรฐานCD-ll อยู่บนฉลากหรือเปล่า) น้ำมันเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ API CF หรือ CF-4 จนกว่าจะผ่านข้อกำหนดในการทดสอบสำหรับค่ามาตรฐานเหล่านี้

CF

      API CF สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล indirect-injection และเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปที่ใช้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถันสูง เช่นเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันสูงกว่า0.5%wt(0.5%โดยน้ำหนัก) ช่วยในการควบคุมสิ่งสกปรกของลูกสูบ ลดการสึกหรอและการกัดกร่อนของbearingที่มีส่วนผสมของทองแดงซึ่งเป็นสิ่งปกติของเครื่องยนต์เหล่านี้ ใช้ได้ทั้งในทอร์โบชาร์จและซูเปอร์ชาร์จ น้ำมันนี้ถูกกำหนดให้ใช้บริการตั้งแต่ปี 1994 และอาจมีการแนะนำให้ใช้แทน API CD ได้ (เมื่อเห็นค่าที่ระบุให้ใช้ API CD ก็สามรถใช้ API CF ได้เลย)

CF-4

       API CF-4 สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล4 จังหวะความเร็วสูง น้ำมัน API CF-4 มีคุณสมบัติเกินมาตรฐานสำหรับ API CE ทำให้สามารถควบคุมการกินน้ำมันหล่อลื่นและสิ่งสกปรกของลูกสูบได้ดียิ่งขึ้น น้ำมันเหล่านี้ควรใช้แทนน้ำมัน API CE เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานรถบรรทุกบนทางหลวง เมื่อมีการระบุรวมกับประเภทตัวอักษร S จะสามารถใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์เบนซิน ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล  รถโดยสาร รถบรรทุกขนาดเล็กและรถตู้ เมื่อถูกแนะนำโดยผู้ผลิตยานยนต์หรือผู้ผลิตเครื่องยนต์

CE

       API CE สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลงานหนักทั่วไป ชนิดที่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์หรือซูเปอร์ชาร์จ ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1983 และมีการใช้งานภายใต้ความเร็วต่ำที่มีการใช้งานหนักและความเร็วสูงที่มีการใช้งานหนัก น้ำมันนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานทดแทน API CD ได้ (เมื่อเห็นค่าที่ระบุให้ใช้ API CD ก็สามรถใช้ API CE ได้เลย)

CD-II

      API CD-II สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลสองจังหวะ ที่ต้องการควบคุมการสึกหรอและสิ่งสกปรกอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำมันนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่มีค่ามาตรฐาน API CD ได้ด้วยเหมือกัน

CD


      API CD สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปและที่มีระบบเทอร์โบชาร์จหรือซูเปอร์ชาร์จที่มีการควบคุมการสึกหรอและสิ่งสกปรกอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หรือใช้ในเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพหลากหลาย(รวมถึงเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันสูง) น้ำมันนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในปี 1955 และช่วยปกป้องจากการเกิดการกัดกร่อนอันเนื่องมาจากอุณหภูมิสูงและการกัดกร่อนของแบริ่ง

CC

      API CC สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปและที่มีเทอร์โบชาร์จหรือซูเปอร์ชาร์จ ใช้ในเครื่องยนต์ดีเซบใช้งานปานกลางถึงหนักและเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นที่ใช้งานหนัก น้ำมันนี้ถูกออกแบบมาสำหรับป้องกันการกัดกร่อนของbearing, การกัดกร่อนจากสนิม, และการกัดกร่อนจากการสะสมอุณหภูมิสูงถึงต่ำในเครื่องยนต์เบนซิน มาตรฐานนี้ได้รับการแนะนำใน1961

                  CB ยกเลิกแล้ว 

      API CB สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลงานเบาถึงปานกลาง แต่ใช้เชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการปกป้องมากจากการสึกหรอและสิ่งสกปรก สามารถใช้ในเครื่องยนต์เบนซินงานเบา ได้เป็นครั้งคราว น้ำมันถูกออกแบบมาในปี 1949 ให้การปกป้องที่จำเป็นอย่างยิ่งจากการกัดกร่อนของbearingและจากการสะสมของอุณหภูมิสูงในเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปที่ใช้เชื้อเพลิงกำมะถันสูง (ไม่มีในเมืองไทยแล้ว)

                  CA ยกเลิกแล้ว 

      API CA สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลงานเบาถึงปานกลาง ด้วยเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูง สามารถใช้ในเครื่องยนต์เบนซินงานเบาได้เป็นครั้งคราว น้ำมันนี้ถูกออกแบบมาสำหรับช่วยป้องกันการสึกหรอและการกัดกร่อนของแบริ่งและสิ่งสกปรกของร่องแหวนในเครื่องยนต์ดีเซลแบบอัดอากาศโดยธรรมชาติ ซึ่งถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในทศวรรษที่ 1940 และ 1950 แต่ไม่ควรใช้ในเครื่องยนต์ใด เว้นแต่จะมีการแนะนำโดยผู้ผลิต(ไม่มีในเมืองไทยแล้ว) 

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ไปเที่ยวภูเก็ตกัน

          ไปเที่ยวภูเก็ตกัน...🍘
      ฤดูแห่งกาลท่องเที่ยวมาถึงแล้ว กับเดือนที่ได้ชื่อว่าร้อนที่สุดของปี พร้อมกับเป็นช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของประเทศไทยนั่นคือ เทศกาลสงกรานต์ ผมกับเพื่อน ไม่ค่อยเดินทางไปเที่ยวในช่วงนี้เท่าไหร่นักปีนี้เป็นปีแรก ที่พวกเราวางแผนทริปการเดินทางอย่างจริงจังผมกับเพื่อนเริ่มคิดกันล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง หลังจากที่พวกเราตกลงจะไปท่องเที่ยวกันก็นั่งปรึกษากันว่าปีนี้จะไปเที่ยวไหนสรุปแล้วเป็นอันว่าสถานที่ของ พวกเราที่ได้ตกลงกันนั้นก็คือภูเก็ตกลุ่มผมจึงได้ทำการเซิร์ชหาข้อมูลสถานที่ต่างๆเลือกที่จะไปเข้าพักปรากฏว่าได้สถานที่แห่งหนึ่งนั่นคือ secret cliff resort และก็ได้จองทันทีซึ่งขณะนั้นราคาค่าจองยังไม่สูงมากนักแล้วก็ยังไม่เต็มแต่ถ้าคุณจองใกล้ใกล้วันที่คุณจะเดินทางไปอาจจะ เต็มก็ได้
     วันที่ 12 เมษายนผมกับพวกอีกสี่คนรวมกันเป็นห้าคนออกเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าวีออส ออกสตาร์ทเวลาสี่ทุ่มจากบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี ใช้เส้นทางเพชรเกษม3525 มุ่งต่อมาจนถึงจังหวัดราชบุรี
     ตรงไปเรื่อยเรื่อยขึ้นถนนเพชรเกษมหมายเลข4 มุ่งตรงต่อมาจนถึงแยกบายพาสชะอำ-หัวหิน ถนนหมายเลขสาม 37 ผมใช้เส้นทางนี้เพราะไม่อยากเสียเวลารถติดอยู่ในหัวหิน จากนั้นกลับขึ้นถนนเพชรเกษมหมายเลข 4 ต่อ ขับต่อมาจนถึงแยกระนอง และมุ่งตรงต่อไปนี้ใช้ทางเพชรเกษมหมายเลข 41 วิ่งตรงยาวมาจนถึงแยกพุณพินเลี้ยวขวาวิ่งเข้าภูเก็ต ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ขับตรงต่อมาก็ถึงเวลาเช้าแล้ว ผมง่วงและเพลียก็จึงหลับไปปล่อยให้เพื่อนขับต่อ พอผมตื่นขึ้นมาก็ยังไม่ได้สังเกตอะไร จนดูวิวทิวทัศน์ สักพักใหญ่ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติเหมือนกับทางนี้ผมไม่เคยมามาก่อน แต่ยังไม่คิดอะไรจนไปเรื่อยเรื่อยผมเริ่มชักแปลกใจแล้วเว้นวรรคจึงหยิบ iPhone ขึ้นมาเซิร์ช Google Maps เท่านั้นแหละจึงได้รู้ว่ามาผิดทางที่ผมเคยมาเป็นประจำ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะทางที่จะไปภูเก็ตนั้นไปได้หลายทางรวมถึงเส้นทางนี้ด้วยซึ่งเส้นทางนี้ก็มีบิวทิวทัศน์และธรรมชาติสวยงาม หมอกคุมยอดทิวเขามีหน้าผา ที่ถูกปกปิดด้วยพืชพรรณไม้ป่าสีเขียวดูอุดมสมบูรณ์ตลอดทาง
ตอนนี้เรากำลังมาผิดเส้นทางที่เคยมาประจำ
ไหนๆมาแล้วก็เอาสักรูป
     
    ยามเย็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพวกเราเดินทางจากรีสอร์ทไปที่หาดราไว ไปซื้อกุ้งมังกรเลนโลละ1,400 แต่ที่ผมสั่งตัวละ700,ปลานกแก้วโลละ250 ตัวที่ผมสั่งคือตัวละ6ขีด ราคา120, กุ้งแชบ๊วยโลละ 1,200แต่แม่ค้าใจดีลดให้เหลือ 800 ,ปลากระพงตัวละ240,ปลาหมึกพวงละ100, และสุดท้ายผมกวาดสายตาไปมองที่หอยนางรมๆตัวใหญ่มากปราะมาณครึ่งฝ่ามือผม ตัวละ50บาท พวกเรามี5คน จึงสั่งมาครบจำนวนคน   


  



  มาถึงหาดราไวสถานที่ๆผู้คนทั้งชาวไทยและเทศมาซื้อของทะเลสดๆแล้วนำไปให้ร้านฝั่งตรงข้ามปรุงอาหารซึ่งส่วนใหญ่จะมีชาวจีนเยอะกว่าชาติอื่นๆ  








ของทะเลสดๆใหม่ๆ มีให้เลือกหลากหลายมีทั้งแปลกหน้า และที่เคยเห็นมาก่อนแล้ว เยอะแยะเต็มไปหมดจนเลือกไม่ถูก มีหลายร้านมากมาย 


    


  อันนี้น่าจะเป็นปลาเก๋า 
ซึ่งผมว่าปลาเก๋าที่นี่ราคาค่อนข้างถูก







กุ้งมังกร แต่ผมจำไม่ได้ว่าเป็นกุ้งมังกรพันธ์อะไร







เดินมาอีกนิดก็เจอปลานกแก้วแบบเป็นๆโลละ2ร้อยกว่า
ถ้าที่ตายแล้วราคาถูกกว่านี้เยอะ




ที่นี่ชาวจีนจะเยอะที่สุด หากคุณไปจะได้ยินเสียงเหมือนฟันดาบ(โช้งช้างเช้ง)


  


ุกุ้งมังกร อีกพันธ์หนึ่งแต่ไม่ต้องถามผมว่าพันธ์อะไรเพราะผมจำไม่ได้...น่าเสียดายที่ไม่ได้จดมา 
   
บรรยากาศที่นี่ก็สวยดี
   

      พอซื้อของเสร็จก็ขับรถต่อมาอีกไม่กี่ร้อยเมตรที่หาดราไวย์นั่นแหละ จะมีร้านอาหารอยู่ทั้ง2ฝั่ง มีหลายร้านให้เลือก พวกเราขี้เกียจเลือกเพราะด้วยความหิวโซและเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง บวกกับของทะเลที่สดใหม่ยั่วยวนจิตใจและความอยากลิ้มลองกุ้งมังกร จึงไม่เลือกมากเจอร้านที่มีที่จอดรถก็เลี้ยวเข้าจอดทันที

   

มีโต็ะอาหารมากมายจัดสรรเรียง
กันอยู้พร้อมให้นักท่องเที่ยงใช้บริการ
จากทางร้านอาหาร
       



กุ้งมังกรเป็นเมนูที่พวกเราชื่นชอบมากที่สุด

      วันนี้วันที่2ของทริป ผมและพวกตื่นนอนกันแต่เช้า ทานอาหารของโรงแรมเสร็จ ออกสตาร์ทมุ่งหน้าสู่ จ.กระบี่ ออกจากภูเก็ต ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ประมาณ200กม. เป้าหมายคืออ่าวนาง พวกเราใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเป้าหมายจอดรถเสร็จสรรพ ก็เดินออกหาเรือเพื่อจะข้ามไปเกาะ เรือมีสองแบบแบบแรกคือ เสียคนละ 100 บาทขาไปและขากลับอีก 100 บาท แต่ต้องรอให้คนเต็ม โดยโดยสารไปกับคนอื่นด้วยให้เต็มลำเรือ แต่ไปแค่ทีเดียวคือที่หาดไรเลย์ แบบที่สองคือแบบเช่าเหมาลำราคาช่วงเทศกาล 2,200 บาท แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลราคา 1,800 บาท แบบนี้จะพาไปสี่ที่ คือ1.เกาะอ่าวถ้ำพระนาง 2.เกาะปอดะ 3. เกาะไก่ 4. ทะเลแหวก
                                                         ชายหาดบริเวณท่าเรืออ่าวนาง

                      



ออกเรือเล็กมุ่งสู่ธรรมชาติทางท้องทะเล
     ที่เกาะอ่าวถ้ำพระนาง ผู้คนเยอะมากมีทั้งไทยและชาวต่างชาติ มีคนเล่นน้ำและบางส่วนก็เดินไปดูทำพระนางแต่ผมไม่ได้ไปเพราะมีคนเยอะมากที่เดินเข้าไปดูกันเต็มปากถ้ำ พวกเราเล่นน้ำกันไม่นานก็กลับขึ้นเรือต่อ


     นั่งเรือต่อได้ไม่นานก็มาถึงเกาะปอดะ สถานที่แห่งนี้สวยงามมาก หาดทรายขาว บรรยากาศสงบกว่าเกาะอ่าวถ้ำพระนาง และด้วยธรรมชาติของเกาะ
ที่บรรจงสรรค์สร้างระหว่างต้นมะพร้าวกับทรายหาดช่างลงตัวกันเหลือเกิน เพื่อนผมก็จัดการใช้ snorkel 
อ่านว่า "สนอร์เคล" หรือ "สนอร์เคิ้ล" หรือ "สนอกเกิ้ล" (แล้วแต่เรียกกันเอาๆที่ึงสบายใจ) แหวกว่ายดำดูท้องทะเล เห็นฝูงปลานกแก้วตัวใหญ่มากวายเป็นฝูง เพื่อนผมก็มาบอกผมในขณะที่ผมกำลังบรรจงหามุมกล้องถ่ายรูป วิวทิวทัศน์ต่างๆ ทันทีที่ได้ยินผมไม่รอช้ารีบไปกล้องถ่ายรูป สวม snorkel 
อ่านว่า "สนอร์เคล" หรือ "สนอร์เคิ้ล" หรือ "สนอกเกิ้ล" (แล้วแต่เรียกกันเอาๆที่ึงสบายใจ) ขออีกรอบ หึ.หึ. ดำลงไปดู ก็เห็นแต่ปลาอย่างอื่น ยังไม่เห็นฝูงปลานกแก้ว ในใจผมคิดว่าฝูงปลานกแก้วมันคงอยู่ห่างจากฝั่งออกไปอีก ผมก็จึงดูท้องทะเลไปเรื่อยเรื่อยจนออกไปไกล แล้วก็ไกลออกไปเรื่อยๆ ผมคิดในใจ"กูก็ดำดูมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นเจอเลย เพื่อนกูเห็นกันทุกคนแล้ว" ผมก็ไม่ละความพยายามก็ยังคงดำดูต่อไปเรื่อยเรื่อยก็เห็นแต่สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลชนิดอื่นที่ไม่ใช่ฝูงปลานกแก้ว จนท้ายที่สุดผมขี้เกียจดำต่อแล้วไม่เจอก็ไม่เจอ ก็เลยดำกลับขึ้นฝั่ง ในขณะที่อยู่กลางทางระหว่างกำลังจะกลับขึ้นฝั่ง สายตาผมบังเอิญไปพงักจ้องอยู่กับฝูงปลากลุ่มใหญ่ ที่บางตัวมีสีสันสวยสุดงดงามราวกับอยู่ในสวนนกแฟนตาซี แต่บางตัวก็สีสันไม่สวย (อาจเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ผมเดาเอานะ) ถูกต้องแล้วครับผมพบเจอกับฝูงปลานกแก้วตัวใหญ่ใหญ่ที่ผมเฝ้ารอตามดูมานาน (ชีวิตหนอชีวิตเวลาเจ้าตั้งใจหา ตั้งใจส่องแทบตายแต่กลับไม่เจอ แต่ มาเจอเอาตอนที่ไม่ได้จะดูไม่ได้จะหาอีกแล้ว) มันทำให้ผมเถิดเถิดไปอีกนานผมกตันอยู่คนเดียวอย่างนั้นจนเพื่อนขึ้นไปหมดแล้วผมก็ยังแหวกไหว้ส่งหาดูสิ่งต่างๆใต้ท้องทะเลอีก ไม่นานนักผมก็ขึ้นฝั่งนั่งเรือไปต่อที่เกาะไก่

     เรือมาถึงที่นี่แต่แปลกกว่าที่อื่นคือไม่ได้จอดเข้าฝั่งแต่จอดอยู่กลางน้ำลึกประมาณ 2 เมตรเศษๆ น้ำใส่มากมองเห็นถึงก้นทะเล และรู้สึกงงงวย พร้อมกับอึ้งไปพักหนึ่งด้วยความสวยของท้องทะเลไทย ทันทีที่เรือหยุดนิ่งเพื่อนผมบรรจงสวม snorkel อย่างฉับพลันเพราะทนความตื่นตาตื่นใจของโลกใต้ท้องทะเลไม่ได้ ลงจากเรือเพื่อสำรวจดำดูแนวปะการัง พร้อมกับสัตว์สิ่งมีชีวิตที่น่ารักและสวยงามต่างๆมากมาย ผมขอได้แต่ยืนถ่ายรูปนั่งถ่ายรูปและอัดวิดีโออยู่บนเรือนั่นเอง 
      ไม่นานก็ตาผมบ้างผมก็ลงจากเรือ ไม่นานก็ถูกต้อนรับด้วยฝูงปลาเสือ ทั้งน่ารักสวยงามและเชื่อง มากๆ บังเอิญว่ามีข้าวอยู่บนเรือที่เหลือจากการรับประทานอาหารกลางวันพอดี คนขับเรือได้บอกว่า "พี่เอาอาหารให้มันสิ" แล้วคนขับเรือก็สาธิตนำข้าวสุขโยนให้มันทีละน้อย ฝูงปลาเสือก็วายเข้ามากินกันชุลมุนไปหมดเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ผมกับเพื่อนป้อนอาหารให้ฝูงปลาเสือโดยใช้มือเปล่าห่อหุ้มข้าวสวยให้มันค่อยค่อยเข้ามากินอย่าเอร็ดอร่อย
ผมดำน้ำดูแนวปะการังดูปลาดูหอยและสิ่งมีชีวิตต่างๆ มันสร้างความประทับใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตผมและของเพื่อนผมด้วย พวกเราทั้งห้าคนรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับธรรมชาติ ใต้ทะเลไทยจนดูเหมือนว่าเวลาได้ผ่านไปเร็วเหลือเกินเหมือนได้อยู่กับสิ่งตรงนี้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วเราอยู่ที่ตรงนี้เกือบชั่วโมง เมื่อได้เวลาสี่โมงกว่า พวกเราก็ออกเรือไปต่อ


      เรือออกเล่นอีกไม่ไกลก็จอดเข้าฝั่งที่เป็นลายล้อมไปด้วยเรือของนักท่องเที่ยวแบบเช่นเดียวกับ พวกเรา ผู้คนเยอะมากมีทั้งไทยและเทศ สถานที่แห่งนี้คือทะเลแหวกนั่นเอง ผมเคยแต่ได้ยินว่าทะเลแหวก ทะเลแหวก พวกเราไม่เคยมาที่นี่กันมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทะเลแหวกจริงๆแล้วมันก็คือทะเลที่อยู่ระหว่างเกาะหนึ่งกับอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งในเวลาปกติ มันก็เป็นเกาะเป็นทะเลนี่เองเหมือนทั่วๆไป แต่เมื่อน้ำลดลงในเวลาตอนเย็นประมาณ 4โมงครึ่งเป็นต้นไป จะมี
ทางเดินระหว่างเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งโผล่ขึ้นมา ให้เราเดินข้ามระหว่างเกาะได้
มาถึงทะเลแหวกเป็นเกาะ3เกาะคั่นด้วยทะเล


ตรงนี้เราเดินมาตรงทะเลแหวกแล้ว


      เสร็จแล้วก็เดินทางกลับกันด้วยเรือที่เราเดินทางมากันแล้วครึ่งวัน ขากลับมาถึงฝั่งพวกเราก็หยุดนิ่งสักพักหนึ่งเพราะ เห็นการจราจรติดขัด ผู้คนเนืองแน่นที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าลายดอก นั่นก็คือชุดสงกรานต์นั่นเอง ถูกแล้วครับ ผู้คนเล่นสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานรื่นเริง มีทั้งคนไทยและต่างชาติ นี่ถ้าผมไม่เหน็ดเหนื่อยจากการทำกิจกรรมต่างๆแล้วล่ะก็ พวกเราก็คงไม่พลาดที่จะเข้าไปเล่นสงกรานต์กันแน่ แต่ตอนนี้เหนื่อยแล้วเล่นไม่ไหว ขอกลับดีกว่า แต่กว่าจะออกจากอ่าวนางได้ล่อไปเกือบชั่วโมงเพราะรถติดมาก ใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมงก็ถึงห้อง กินข้าวเสร็จแล้วก็ซัดเบียร์ต่อ จากนั้นก็หลับยาว

วันสุดท้าย

     พวกเราตื่นมาตอนสายๆกินอาหารเช้าของโรงแรม เสร็จแล้วก็มานั่งจิบเบียร์ต่อจนถึงบ่าย ได้เวลาขับรถเล่นรอบเกาะ ผมกับเพื่อนๆ ก็ตะลุยไปเรื่อยๆด้วยรถคันเก่งคันเดิม ไปในสถานที่ๆเราไม่เคยไป มีหนทางๆไหนเราก็ไปทางนั้นหลงบ้าง เจอทางตันบ้าง ก็สนุกดี จนได้เวลาเย็นก็ไปที่ๆคนทั่วไปชอบไปกันเวลายามเย็น นั่นคือ แหลมพรมเทพ
     




      ตอนเย็นพระอาทิตย์เริ่มตก และท้องก็ร้องแล้ว อ็อด...อ็อด...อ็อด... เสียงท้องมันร้องออกมา ขับรถออกมาจากแหลมพรมเทพ ไปตามเส้นทางถนนที่คดเคี้ยว เพื่่อจะเสาะแสวงหาอาหารเย็นรัปประทาน ความคิดของพวกเรายังติดใจรสชาติของอาหารทะเล จึงมุ่งตรงไปยังหาดราไวไปซื้อของทะเลมากินอีก คราวนี้เราก็เลือกเมนูที่คล้ายๆกับเมื่อวานแต่ต่างกันเล็กน้อย และมื้อนี้ก็ไม่มีกุ้งมังกร (ใจจริงก็อยากกินนะ)

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา วันเดินทางกลับ

      ว่ันนี้เป็นวันที่พวกเราต้องเดินทางกลับ ใจจริงก็ยังไม่อยากกลับหรอก อยากอยู่ต่อมันสักอาทิตย์ไปเลย แต่จะทำไงได้ล่ะในเมื่อเกิดมาจน ไม่มีเงินถุงเงินถัง งานก็ต้องทำ บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ จึงต้องยอมรับสภาพ พวกเราจึงอำลารีสอร์ทอันแสนหวานที่จะเก็บไว้เป็นความทรงจำตลอดไป 
      มุ่งออกจากป่าตอง เพื่อนๆในรถก็บอกว่ามาภูเก็ตต้องมากินติ่มซำที่ตัวเมือง ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อที่นี่ แต่ผมไม่เคยกินติ่มซำมาก่อน ผมก็ไม่รู้ว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไงและรสชาติเป็นยังไง จึงมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอเมืองไปร้านติ่มซำที่เพื่อนในรถบอก เมื่อไปถึงร้านติ่มซำที่ขึ้นชื่อของภูเก็ตซึ่งผมก็จำชื่อร้านไม่ได้ พวกเราก็ตกตะลึงกับผู้คนที่มายืนรอซื้อติ่มซำและที่โต็ะนั้งภายในร้านนั้นคนแออัดยัดเยียดมาก ผมก็พูดออกมาว่า"ถ้ามึงรอแดกที่นี่ 1ชั่วโมงก็ยังไม่ได้แดกแน่" อันนี้ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ คนโคตรรรรเยอะะะะะมากๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆครับ ผมจึงขับไปร้านอื่นต่อ และก็มาถึงร้าน จ่วนเฮี้ยง
ครับ ร้านนี้คนก็เยอะครับแต่ไม่เท่าร้านแรกที่ผมจอด นี่ถือเป็นการกินติ่มซำครั้งแรกของผมครับ และต่อด้วยกระเพาะปลา และต่อด้วยอย่างอื่นอีกครับ 









      หลังจากกินอิ่มแล้วก็เดินทางกลับ แวะซื้อของฝากที่สุราษครับ แล้วก็ยิงยาวเลยครับ แต่มันไม่ยาวนี่สิครับ เพราะรถโคตรติดเลย รถเยอะมาก ติดเป็นช่างๆครับ ขากลับใช้เวลาเดินทาง16ชั่วโมงครับ
      ...และแล้วก็ถึงบ้านตอนตี1 เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทาง ผมนี่ถึงบ้านปุบก็เข้านอนปับน้ำเนิ้มไม่อาบหรอก เพราะเห็นเขาว่า คนสะอาดไม่ต้องอาบน้ำ เพราะสะอาดอยู่แล้วจะอาบทำไม คนสกปรกนี่สิต้องอาบบ่อย เพราะแปปเดี๋ยวก็สกปรกแล้วต้องคอยอาบบ่อยๆ...
      เอาเป็นว่าทริปนี้คุ้มสุดคุ้มครับ ไปเที่ยวแบบหรูๆ แต่ใช้งบไม่เยอะครับ เพียงแต่เราต้องรู้จักเลือก และต้องไตร่ตรอง
และรอบครอบสักหน่อย เพื่อนๆที่มีโอกาสก็อย่าปล่อยให้หลุดลอยไปนะครับ อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมพักผ่อนนะครับ เพราะชีวิตบางทีก็ไม่มีแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ช่วงไหนหยุดยาวๆก็ชวนเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันครับ แต่หากจะไปแบบผมนี่ก็ทักมาถามผมได้ครับ

โชคดีครับ





      


วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

อาการเบรคติด สาเหตุ และวิธีแก้ไข

   ถ้าพูดถึงเรื่องรถยนต์แล้วมันมีระบบต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ระบบไฟ ระบบช่วงล่างและอื่นๆอีกมากมายแต่สิ่งที่ผมว่าสำคัญที่สุดที่เป็นสิ่งที่คนมองข้ามนั่นคือระบบเบรค เพราะถ้าระบบเบรคขัดข้องอาจเป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุต่างๆมากมาย
   อาการเบรคติดนั้นก็เป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของรถๆจะออกอาการอั้นๆ เร่งเครื่องแล้วไม่ได้ความเร็วตามปกติ รถเหมือนมีภาระโหลด มีอาการเบรคตลอดเวลา
ทำไมเบรคถึงติด?
   เมื่อเราเหยียบเบรคจะเกิดแรงดันมหาศาลของน้ำมันเบรคส่งตามท่อทางเดินน้ำมันเบรคไปที่คาลิปเปอร์เบรค รวมตัวกันอยู่ที่หัวลูกสูบ แรงดันของน้ำมันเบรคจำนวนมหาศาลผลักดันให้ลูกสูบเบรคเคลื่อนตัวออกดันผ้าเบรคให้ไปสัมผัสกับผิวหน้าจานเบรคและเกิดแรงผลักดันตัวเองทำให้ก้ามปูเบรคสไลด์ตัวออกเพื่อบีบผ้าเบรคอีกฝั่งหนึ่งให้เคลื่อนที่สัมผัสกับจานเบรคเกิดเป็นการห้ามล้อขึ้น. เมื่อปล่อยเบรคแรงดันน้ำมันเบรคก็จะลดลงน้ำมันเบรคก็จะไหลกลับ ลูกลูบเบรคก็จะเคลื่อนตัวกลับตามน้ำมันเบรค แต่ถ้าหากว่าลูกสูบไม่ถอยกลับหรือสลักตายไม่เคลื่อนตัวออก(การบุชชิ่งตาย)ก็จะทำให้เกิดแรงบีบค้างอยู่ที่ผ้าเบรคนี่แหละที่เรียกว่าเบรคติด
สาเหตุ
  •   ยางกันฝุ่นชำรุด เปื่อย ฉีกขาด ทำให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆเข้าไปภายในลูกสูบ
  •   เกิดสนิมที่ลูกสูบและกระบอกสูบทำให้การเคลื่อนตัวติดขัด
  •   โอริงน้ำมันบวม ทำให้เกิดการอัดตัวแน่นของลูกสูบกับโอริง
  •    สลักตาย ทำให้การสไลด์ตัวของบุชชิ่งติดขัด
  •   น้ำมันเบรคเสื่อมคุณภาพเพราะไม่ถ่ายตามกำหนดเวลา
      การแก้ไข   
     ถอดชิ้นส่วนคาลิปเปอร์ออกจากล้อแล้วถอดยางกันฝุ่น ลูกสูบ โอริงน้ำมัน สลักลูกสูบ
ล้างทำความสะอาดลูกสูบ ผิวกระบอกสูบ ถ้าเกิดสนิมขึ้นต้องใช้กระดาษทรายเบอร์320ขึ้นไป(ห้ามใช้ต่ำกว่านี้)ขัดเอาสนิมที่ผิวกระบอกสูบ ร่องโอริงน้ำมัน ลูกสูบ ออกให้หมด หลังจากนั้นทำความสะอาดสลักลูกสูบให้สะอาดถ้ามีคราบจารบีเหนียวติดแน่นให้ใช้น้ำมันเบนซินล้างก่อนแล้วจึงล้างทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกอีกที กรณีที่เกิดสนิมขึ้นต้องขัดออกก่อนตามวิธีข้างต้น. หลังจากนั้นเปลี่ยนชุดโอริงต้องเป็นของแท้เท่านั้น แล้วประกอบเข้าไปเหมือนเดิมใช้น้ำยาทาลูกยางช่วยหล่อลื่นด้วย  (ห้ามใช้จารบีเด็ดขาด)  เติมน้ำมันเบรคแล้วไล่ลมออกให้หมด
      แนวทางป้องกัน
     อันที่จริงแล้วเท่าที่ผมเคยสังเกตุและสำรวจมาปรากฏว่าน้อยคนนักที่จะเห็นความสำคัญของน้ำมันเบรค คือแบบว่าใช้ไปเรื่อยๆไม่ถ่าย"เพราะมันยังไม่เสีย" ,"ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนนี่ ของเก่ายังใช้ได้อยู่", "รอให้เสียก่อนค่อยซ่อมแล้วเปลี่ยนทีเดียว" และคำพูดอื่นๆอีกนานัปการ แต่บางคนก็ไม่รู้จริงๆนะครับก็แล้วไป มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าว่าน้ำมันเบรคควรเปลี่ยนตามระยะเวลากำหนดการของค่ายรถที่ระบุไว้ในคู่มือ ใครที่ไม่รู้ว่าคู่มือรถตัวเองอยู่ไหนรีบไปหามาไว้ในเกะซะ ถ้าหายจริงๆก็เอาอย่างนี้แล้วกันถ้ารถขับธรรมดาไม่ได้ขับโหดนักก็ทุกๆ100,000km หรือ1ปี ดูว่าอย่างไหนถึงก่อน ถ้ารถใช้งานหนัก-หนักมาก รถขึ้นลงเขาก็ทุกๆ40,000km หรือ6เดือน ดูว่าอย่างไหนถึงก่อน ถ้ารถที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมต้องถ่ายน้ำมันเบรคทันทีหลังจากพ้นวิกฤติน้ำท่วมไป

มาตรฐาน API เครื่องยนต์ดีเซล

     FA-4        Api FA-4  กำหนดขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลสี่จังหวะความเร็วสูงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานก...